ดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน สุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานไม่ได้เป็นเพียงแค่ "สิ่งที่ควรมี" แต่กลับกลายเป็น "สิ่งจำเป็น" ที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ
Harvard Business Review ระบุว่า 'องค์กรที่ลงทุนในการสนับสนุนสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของพนักงาน ไม่เพียงช่วยลดอัตราการลาออกแต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และความพึงพอใจของพนักงานในระยะยาว'
การดูแลด้านนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของการจัดหาแหล่งข้อมูลหรือสวัสดิการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความสุข ความปลอดภัย และความยั่งยืนของชีวิตการทำงานอีกด้วย การดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การแสดงความใส่ใจในตัวบุคลากร แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จ และการเติบโตขององค์กรในหลายด้าน
1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity Enhancement)
เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตที่ดี พวกเขาจะมีพลังงานและความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่ การลดความเครียดหรือความกังวลทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น Harvard Business Review พบว่าพนักงานที่มีความเป็นอยู่ที่ดีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้สูงถึง 13% เมื่อเทียบกับพนักงานที่เผชิญความเครียดในที่ทำงาน
2. ลดอัตราการลาออก (Employee Retention)
การดูแลสุขภาพจิตของพนักงานช่วยสร้างความผูกพันและความภักดีต่อองค์กร พนักงานที่รู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะอยู่ร่วมงานกับองค์กรในระยะยาวมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาและฝึกอบรมบุคลากรใหม่
3. สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี (Positive Work Environment)
การส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี ช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการสนับสนุนกันภายในทีม ลดความขัดแย้ง และเพิ่มความร่วมมือระหว่างพนักงาน องค์กรที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีจะดึงดูดผู้มีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้ง่ายขึ้น
4. เพิ่มนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ (Innovation and Creativity)
พนักงานที่ปราศจากความเครียดจะมีพื้นที่ในการคิดอย่างสร้างสรรค์และกล้าลองทำสิ่งใหม่ การสนับสนุนสุขภาพจิต จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพ
ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ส่งผลดีต่อองค์กร
5. ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสุขภาพ (Cost Reduction)
ความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกาย เช่น โรคหัวใจหรือปัญหาทางระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ให้กับองค์กร การป้องกันปัญหาเหล่านี้ด้วยการดูแลสุขภาพจิตตั้งแต่ต้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว
6. ปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กร (Employer Branding)
องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงานจะได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบและใส่ใจในทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของทั้งพนักงานและสาธารณชน
การดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การดูแล "คน" แต่เป็นการลงทุนที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกด้าน เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตและกายที่ดี องค์กรจะได้ทีมงานที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร
Author
ออแบท-อธิษฐ์กร นิยมเดชาธีรฉัตร
PositivePsychologist นักจิตวิทยาองค์กร
Professional Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator
Artwork: Jutha.J