แชร์

ไขความลับ กลไกป้องกันตัวเอง: เข้าใจและรับมืออย่างสร้างสรรค์

อัพเดทล่าสุด: 31 ม.ค. 2025
168 ผู้เข้าชม

การป้องกันตัวเอง (Self-Defensive Mechanism) เป็นพฤติกรรมที่มนุษย์แสดงออกโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สึกถูกคุกคาม เสียหน้า หรือไม่ปลอดภัย พฤติกรรมนี้เป็นธรรมชาติและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางจิตวิทยาที่ช่วยปกป้องตัวเราให้รอดพ้นจากความไม่สบายใจหรือไม่มั่นใจ

ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ความรู้สึกไม่พอใจเมื่อได้รับ Feedback แล้วตอบกลับอย่างปกป้องตัวเอง เช่น ฉันตั้งใจทำเต็มที่แล้ว/คุณไม่เข้าใจงานนี้ดีพอ หรือเมื่อถูกถามถึงความล่าช้าของโครงการ แต่กลับตอบกลับว่าไม่ใช่แค่ฉันที่ช้า ทุกคนก็มีส่วนทำให้ล่าช้าเหมือนกัน

เพราะอะไรคนเราจึงมีกลไกการป้องกันตัวเอง?

จากแนวคิดของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ กลไกการป้องกันตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานของจิตใจที่ช่วยลดความขัดแย้งระหว่างแรงกดดันจากภายนอก (เช่น คำวิจารณ์) และแรงผลักดันจากภายใน (เช่น ความกลัวว่าจะล้มเหลว) ทำให้คนเราแสดงพฤติกรรมด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เช่น

การปกป้องภาพลักษณ์: เมื่อคนรู้สึกว่าความสามารถหรือผลงานของตนถูกตั้งคำถาม พวกเขามักจะแสดงพฤติกรรมเพื่อรักษาภาพลักษณ์ในสายตาผู้อื่น

ความไม่มั่นคงในตัวเอง: คนที่มีความมั่นใจต่ำหรือเคยประสบกับความล้มเหลว อาจตอบสนองเชิงปกป้องตัวเองบ่อยกว่าคนที่มั่นใจในตัวเอง

ความกลัวที่จะเสียหน้า: วัฒนธรรมบางแห่งที่เน้นความสมบูรณ์แบบหรือความสำเร็จ อาจทำให้คนแสดงพฤติกรรมปกป้องตัวเองเมื่อรู้สึกว่าตนเองไม่ถึงมาตรฐานที่คาดหวัง

การตระหนักถึงกลไกการป้องกันตัวเองไม่เพียงช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของตนและผู้อื่นได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ดังนี้

พัฒนาตนเอง:
การรู้ตัวว่าเรากำลังแสดงพฤติกรรมเชิงปกป้อง ช่วยให้เราสามารถหยุดพฤติกรรมนั้นและมอง Feedback เป็นโอกาสในการปรับปรุง

ลดความขัดแย้ง:
เมื่อเราเข้าใจว่าคนอื่นอาจแสดงพฤติกรรมปกป้องตัวเองเพราะพวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัย เราจะไม่มองว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นการโจมตีส่วนตัว

สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น:
ความเข้าใจในกลไกนี้ช่วยให้เราสื่อสารอย่างมีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างในที่ทำงาน

และ 6 วิธีการรับมือและปรับตัวเพื่อสร้างพฤติกรรมที่สร้างสรรค์มีดังนี้

1. ตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-Awareness):

การตระหนักถึงอารมณ์และพฤติกรรมของตัวเองเป็นก้าวแรกในการจัดการกับกลไกการป้องกันตัวเอง ลองถามตัวเองว่า ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้? หรือ สิ่งนี้เกี่ยวกับงานหรือเกี่ยวกับตัวฉันเอง?

2. ฝึกแยกแยะระหว่างคำวิจารณ์กับตัวตน:

พึงระลึกเสมอว่า Feedback หรือคำวิจารณ์เกี่ยวกับงาน ไม่ได้ลดคุณค่าในตัวคุณ

ตัวอย่าง: เมื่อหัวหน้าตำหนิว่า งานนี้ยังไม่สมบูรณ์แทนที่จะรู้สึกว่าฉันไม่เก่ง ให้คิดว่าฉันจะปรับปรุงอะไรได้บ้าง?

3. เปิดใจรับฟังและถามคำถาม:

มองข้อเสนอแนะว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และฝึกถามคำถามเพื่อเข้าใจให้ชัดเจน

ตัวอย่าง: คุณคิดว่าฉันควรปรับจุดไหนก่อนเป็นอันดับแรก?

4. ฝึกสื่อสารอย่างสร้างสรรค์:

หากรู้สึกไม่เห็นด้วยหรือไม่สบายใจให้พูดอย่างสุภาพและเสนอวิธีแก้ปัญหา

ตัวอย่าง: แทนที่จะตอบโต้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉันให้พูดว่า เรามาลองคิดหาวิธีปรับปรุงร่วมกันดีไหม?

5. พัฒนาทัศนคติเชิงบวก:

มองสถานการณ์ที่ท้าทายเป็นโอกาสในการเติบโตแทนที่จะมองเป็นอุปสรรค

ตัวอย่าง: หากทีมไม่เห็นด้วยกับไอเดียของคุณ ให้คิดว่า นี่เป็นโอกาสที่จะเรียนรู้มุมมองใหม่

6. สร้างความมั่นคงในตัวเอง:

ฝึกยอมรับข้อดีและข้อเสียของตัวเองอย่างสมดุลเพื่อเสริมความมั่นใจในตนเอง

ตัวอย่าง: จดบันทึกความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวันเพื่อเตือนตัวเองถึงคุณค่าที่คุณมี

กลไกการป้องกันตัวเองเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ช่วยปกป้องจิตใจ แต่การแสดงพฤติกรรมนี้อย่างไม่รู้ตัว อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และการพัฒนาตนเอง การตระหนักรู้และเข้าใจว่าทำไมเราถึงมีพฤติกรรมแบบนี้ ช่วยให้เราสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ และที่สำคัญคือช่วยให้เราเติบโตเป็นคนที่เปิดใจกว้าง มั่นคงในตัวเอง และพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์

 Author

ยุ่ง ศริยา ประวงษ์ ร่วมกับ ChatGPT
People & Culture Transformation Consultant
Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator

  Artwork: Jutha.J


บทความที่เกี่ยวข้อง
4 วิธีดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
แม้สุขภาพจิตของพนักงานจะเป็นปัจจัยที่สำคัญแต่ยังมีหลายองค์กรที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเพียงพอ ปัญหาความเครียด การหมดไฟในการทำงาน และภาวะซึมเศร้า กำลังกลายเป็นความท้าทายที่องค์กรต้องเผชิญ การให้การสนับสนุนด้านสุขภาพจิตไม่เพียงช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรโดยรวม ดังนั้น องค์กรควรพิจารณาแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
31 ม.ค. 2025
ดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การดูแล "คน" แต่เป็นการลงทุนที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกด้าน เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตและกายที่ดี องค์กรจะได้ทีมงานที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร
31 ม.ค. 2025
ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ให้ความต่างสร้างการเติบโต
เมื่อพูดถึงความขัดแย้ง คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะหลีกเลี่ยง เพราะคิดว่าจะนำไปสู่ความไม่พอใจ แตกแยก หรือสูญเสีย แต่ในความเป็นจริง ความขัดแย้งไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอไป หากเราสามารถจัดการและใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเหมาะสม ความขัดแย้งอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นที่นำไปสู่การพัฒนา การสร้างนวัตกรรม และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทีมได้
31 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy