คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่า..ที่แอบรอคำขอบคุณหลังจากที่ได้ออกแรงทำอะไรให้ใคร?
ถ้าใช่ ก็ไม่แปลกเลยค่ะ เนื่องจากมนุษย์มีความต้องการที่จะรู้สึกว่าตนเองมีค่า และการกระทำของตนมีความหมาย การได้รับคำขอบคุณเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกถึงการได้รับการยอมรับในความพยายามและการทุ่มเทที่เราใส่ลงไปในงานหรือการช่วยเหลือ ซึ่งกระตุ้นความรู้สึกว่าตนเองมีค่าและช่วยเพิ่มความพึงพอใจในตัวเอง (Self-Esteem) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในทฤษฎีการยอมรับทางสังคม (Social Acceptance Theory) ที่กล่าวว่าเมื่อบุคคลรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับ จะทำให้พวกเขามีความสุขและมั่นใจมากขึ้น
เหตุผลเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การแสดงความขอบคุณในที่ทำงานกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อบรรยากาศการทำงานและประสิทธิภาพของทีม
และถ้าหากคุณเป็นผู้นำหรือหัวหน้างานที่อยากจะเริ่มขอบคุณทีมงาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ในหนังสือ Leading with Gratitude ของ Adrian Gostick และ Chester Elton มีคำแนะนำ 8 วิธีปฏิบัติที่เรียบง่ายในการแสดงความขอบคุณ ซึ่งเมื่อปรับใช้แล้วสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เกินความคาดหวังได้อย่างน่าทึ่ง
1. ค้นหาความสำเร็จเล็ก ๆ (Find Small Wins)
ในบรรยากาศการทำงานที่เร่งรีบและแข่งขัน เราอาจมองข้ามความสำเร็จเล็กน้อยของทีม แต่การเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆ เช่น การบรรลุเป้าหมายรายวันหรือการก้าวข้ามอุปสรรคในงานที่ท้าทาย จะช่วยสร้างกำลังใจและความพึงพอใจในงานของคนทำงาน ส่งผลให้พวกเขามีความพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อความสำเร็จในงานใหญ่ ๆ ต่อไป
2. เข้าใจมุมมองของผู้อื่น (Walk in Their Shoes)
การแสดงความขอบคุณควรเริ่มจากความเข้าใจในความท้าทายของพนักงาน การที่ผู้นำทำความเข้าใจปัญหาและความกดดันที่ทีมเผชิญแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่และการให้คุณค่ากับความพยายามของพนักงาน เมื่อพนักงานรู้สึกว่าผู้นำเข้าใจพวกเขา พวกเขาจะมีความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวผู้นำมากขึ้น
3. เชื่อในเจตนาที่ดี (Assume Positive Intent)
การเชื่อในเจตนาที่ดีของพนักงานสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจและความเปิดกว้าง ผู้นำที่ให้ความเชื่อมั่นแก่ทีมว่าสิ่งที่พวกเขาทำมีเจตนาที่ดี จะช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานกล้าเสี่ยงและคิดนอกกรอบ ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และการเติบโตของทีม
4. แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ (Express Sincere Gratitude)
การแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจและเฉพาะเจาะจงในสิ่งที่พนักงานทำ ช่วยสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจในตนเองของพนักงาน ผู้นำควรแสดงความขอบคุณที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของความพยายามที่พนักงานใส่ลงไป ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้พนักงานรู้สึกดี แต่ยังสร้างแรงจูงใจให้พวกเขาพัฒนาผลงานต่อไป
5. ปรับคำขอบคุณ หรือคำชมเชยให้เหมาะกับบุคคล (Personalize Recognition)
การยอมรับความสำเร็จหรือความพยายามของพนักงานควรปรับให้เข้ากับความต้องการและบุคลิกของแต่ละบุคคล บางคนอาจต้องการคำชมเชยต่อหน้าทีม ในขณะที่บางคนอาจชอบความเป็นส่วนตัว การแสดงความขอบคุณที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความมั่นใจในทีม
6. เฉลิมฉลองความก้าวหน้า (Celebrate Milestones)
การฉลองเป้าหมายสำคัญหรือ Milestones ช่วยสร้างกำลังใจและความร่วมมือในทีม ความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเป็นการบรรลุเป้าหมายใหญ่ การฉลองความก้าวหน้าเล็ก ๆ ก็ช่วยสร้างความพึงพอใจและการตระหนักในคุณค่าของสิ่งที่ได้ทำ ซึ่งทำให้ทีมมีความมุ่งมั่นที่จะไปต่อได้
7. ให้เวลาและความใส่ใจ (Give Time and Attention)
ผู้นำที่ใส่ใจพนักงานโดยการให้เวลาและความสนใจในการฟังและเข้าใจพวกเขา ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น การให้เวลาและความใส่ใจเป็นการแสดงความขอบคุณในเชิงลึกที่แสดงออกผ่านการกระทำ มากกว่าคำพูดเพียงอย่างเดียว การใช้เวลาฟังพนักงานและทำความเข้าใจความต้องการของพวกเขา ทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญต่อผู้นำ และการแสดงความขอบคุณในลักษณะนี้จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่มีความเชื่อใจและความไว้วางใจในที่ทำงานได้
8. ทำอย่างต่อเนื่อง (Be Consistent)
การแสดงความขอบคุณอย่างต่อเนื่องช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งการสนับสนุนและความไว้วางใจ เมื่อผู้นำขอบคุณพนักงานอย่างสม่ำเสมอ พนักงานจะรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขามีความหมายและพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อองค์กร การแสดงความขอบคุณไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำเป็นครั้งคราว แต่ควรเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร
การแสดงความขอบคุณเป็นเรื่องที่เรียบง่ายแต่มีพลังมหาศาล เมื่อผู้นำใช้คำขอบคุณอย่างสม่ำเสมอและจริงใจ ทีมจะสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างไม่สิ้นสุด
---
Author
ยุ่ง ศริยา ประวงษ์
People & Culture Transformation Consultant
Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator
Artwork: Jutha.J
#teampsychologicalsafety
#highperformingteam
#theartofchange
#wetreasureSUSTAINABLEGROWTHthroughPEOPLE