แชร์

ผลกระทบเมื่อหัวหน้างานไม่ยอมรับความผิดพลาด

อัพเดทล่าสุด: 13 พ.ย. 2024
96 ผู้เข้าชม

หัวหน้างานมีบทบาทสำคัญในการนำพาองค์กรและทีมงานไปสู่ความสำเร็จ แต่เมื่อใดที่หัวหน้างานทำผิดพลาดและไม่กล้ายอมรับความผิดพลาดนั้น ผลกระทบร้ายแรงจะเกิดขึ้นในหลายด้าน ซึ่งส่งผลต่อทั้งองค์กร ทีมงาน และตัวหัวหน้างานเอง

1. ผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและภาวะผู้นำ

ความน่าเชื่อถือเป็นรากฐานสำคัญของการเป็นผู้นำ เมื่อหัวหน้างานไม่ยอมรับความผิดพลาด สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการสูญเสียความน่าเชื่อถืออย่างรวดเร็ว ลูกน้องจะเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมการปัดความรับผิดชอบ การโยนความผิด หรือการพยายามปกปิดความผิดพลาด ซึ่งทำลายความเชื่อมั่นที่ลูกน้องมีต่อหัวหน้า

ในระยะยาว การสูญเสียความน่าเชื่อถือนี้จะส่งผลต่อความสามารถในการนำทีม ลูกน้องจะเริ่มตั้งคำถามกับการตัดสินใจต่าง ๆ เกิดความไม่แน่ใจในวิสัยทัศน์และการนำพาองค์กร และอาจถึงขั้นไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน ภาวะผู้นำที่แท้จริงต้องอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์และความกล้าที่จะยอมรับทั้งด้านบวกและด้านลบ

2. ผลกระทบต่อทีมงาน

 

เมื่อหัวหน้าไม่ยอมรับความผิดพลาด ผลกระทบต่อทีมงานจะปรากฏชัดเจนในหลายรูปแบบ ลูกน้องจะเริ่มรู้สึกอึดอัดและไม่ปลอดภัยในการทำงาน เพราะต้องคอยระวังตัวว่าอาจถูกโยนความผิดให้ได้ทุกเมื่อ บรรยากาศการทำงานจะเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและความกังวล

ทีมงานจะเริ่มทำงานด้วยความกลัว แทนที่จะทำงานด้วยความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปกป้องตัวเอง เก็บหลักฐานและระมัดระวังการกระทำทุกอย่าง ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างมาก
ขวัญและกำลังใจในการทำงานจะตกต่ำ เพราะลูกน้องรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่มีใครปกป้องพวกเขาเมื่อเกิดปัญหา ในที่สุดพนักงานที่มีความสามารถอาจตัดสินใจลาออกไปหาโอกาสที่ดีกว่า

3. ผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กร

วัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่หล่อหลอมพฤติกรรมของคนในองค์กร เมื่อหัวหน้าแสดงให้เห็นว่าการไม่ยอมรับความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ วัฒนธรรมแห่งการปกปิดและการปัดความรับผิดชอบจะค่อย ๆ ซึมลึกเข้าไปในองค์กร พนักงานจะเรียนรู้ว่าการปกป้องตัวเองสำคัญกว่าการแก้ไขปัญหา

การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาจะหายไป แทนที่ด้วยการพูดคุยอย่างระมัดระวัง การส่งข้อความแฝง และการสื่อสารที่ไม่จริงใจ องค์กรจะกลายเป็นที่ที่ทุกคนสวมหน้ากากเพื่อปกป้องตัวเอง แทนที่จะเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และพัฒนา

4. ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน

ประสิทธิภาพการทำงานจะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะเมื่อไม่มีการยอมรับความผิดพลาด ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด ทีมงานจะเสียเวลาไปกับการหาทางปกปิดปัญหาหรือหาแพะรับบาป แทนที่จะทุ่มเทเวลาและทรัพยากรไปกับการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง

การตัดสินใจต่าง ๆ จะเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะทุกคนกลัวความผิดพลาดและไม่กล้ารับผิดชอบ นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์จะหยุดชะงัก เพราะไม่มีใครกล้าทดลองสิ่งใหม่ ๆ เนื่องจากกลัวความล้มเหลว ในที่สุด องค์กรจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

5. ผลกระทบต่อการสื่อสารในองค์กร

การสื่อสารในองค์กรจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ข้อมูลที่ไหลเวียนในองค์กรจะถูกบิดเบือนเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย รายงานต่าง ๆ จะถูกแต่งแต้มให้ดูดี แม้จะไม่ตรงกับความเป็นจริง การสื่อสารจะกลายเป็นแบบทางเดียว คือจากบนลงล่างเท่านั้น เพราะไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลย้อนกลับที่ตรงไปตรงมา

ความไม่โปร่งใสในการสื่อสารจะทำให้เกิดข่าวลือและความเข้าใจผิดมากมาย พนักงานจะเริ่มตีความข้อมูลต่าง ๆ ด้วยความระแวง และอาจเกิดความขัดแย้งจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน

6. ผลกระทบต่อการพัฒนาองค์กร

การพัฒนาองค์กรจะหยุดชะงัก เพราะไม่มีการเรียนรู้จากความผิดพลาด ทุกครั้งที่เกิดปัญหา แทนที่จะมองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา กลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดและหลีกเลี่ยงการพูดถึง องค์กรจะไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจได้

นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์จะถูกยับยั้ง เพราะทุกคนเลือกที่จะทำงานแบบเดิม ๆ ที่ปลอดภัย แทนที่จะลองสิ่งใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่การพัฒนา ในระยะยาว องค์กรจะล้าหลังคู่แข่งและอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

7. ผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับลูกค้าและพันธมิตร

ความสัมพันธ์กับภายนอกองค์กรก็จะได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ลูกค้าจะเริ่มสังเกตเห็นความไม่โปร่งใสและการปกปิดปัญหา ซึ่งทำให้สูญเสียความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเมื่อปัญหาที่ถูกปกปิดส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินค้าหรือบริการ
พันธมิตรทางธุรกิจจะเริ่มลังเลที่จะร่วมงานด้วย เพราะไม่มั่นใจในความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ขององค์กร ในที่สุด ภาพลักษณ์ขององค์กรจะเสียหาย และโอกาสทางธุรกิจจะลดน้อยลง

...

การไม่ยอมรับความผิดพลาดของหัวหน้างานสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงและยาวนาน ทั้งต่อตัวหัวหน้าเอง ทีมงาน และองค์กรโดยรวม การแก้ไขสถานการณ์ต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความผิดพลาดจากสิ่งที่ต้องปกปิดเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา

หัวหน้างานต้องเป็นแบบอย่างในการยอมรับความผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมา สร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจ และนำพาทีมในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องใช้เวลา แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

 


---
  Author

ออแบท-อธิษฐ์กร นิยมเดชาธีรฉัตร

PositivePsychologist นักจิตวิทยาองค์กร
Professional Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator

  Artwork: Jutha.J


บทความที่เกี่ยวข้อง
4 วิธีดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
แม้สุขภาพจิตของพนักงานจะเป็นปัจจัยที่สำคัญแต่ยังมีหลายองค์กรที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเพียงพอ ปัญหาความเครียด การหมดไฟในการทำงาน และภาวะซึมเศร้า กำลังกลายเป็นความท้าทายที่องค์กรต้องเผชิญ การให้การสนับสนุนด้านสุขภาพจิตไม่เพียงช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรโดยรวม ดังนั้น องค์กรควรพิจารณาแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
31 ม.ค. 2025
ดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การดูแล "คน" แต่เป็นการลงทุนที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกด้าน เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตและกายที่ดี องค์กรจะได้ทีมงานที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร
31 ม.ค. 2025
ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ให้ความต่างสร้างการเติบโต
เมื่อพูดถึงความขัดแย้ง คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะหลีกเลี่ยง เพราะคิดว่าจะนำไปสู่ความไม่พอใจ แตกแยก หรือสูญเสีย แต่ในความเป็นจริง ความขัดแย้งไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอไป หากเราสามารถจัดการและใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเหมาะสม ความขัดแย้งอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นที่นำไปสู่การพัฒนา การสร้างนวัตกรรม และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทีมได้
31 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy