share

'5 สัญญาณทีมพัง' ที่ควรเฝ้าระวังก่อนสาย

Last updated: 18 Sep 2024
3 Views
5 สัญญาณทีมพัง ที่ควรเฝ้าระวังก่อนสาย

'การสร้างทีมประสิทธิภาพสูงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในทุกองค์กร' เมื่อสมาชิกในทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น มีความเข้าใจในบทบาทของตนเองและมีเป้าหมายร่วมกัน ทีมจะสามารถสร้างผลงานที่เหนือความคาดหวัง แต่ในทางกลับกัน หากทีมขาดประสิทธิภาพ การสื่อสารไม่ราบรื่น หรือไม่มีความร่วมมือที่ดี สิ่งนี้อาจนำไปสู่ความล้มเหลว และลดโอกาสที่องค์กรจะเติบโต
.
ทีมที่มีประสิทธิภาพสูงไม่เพียงแต่จะสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ยังมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และพร้อมที่จะปรับตัวเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ทีมลักษณะนี้จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มที่ และมีการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและชัดเจน เนื่องจากสมาชิกในทีมมีความไว้วางใจในกันและกัน สภาพแวดล้อมนี้จึงทำให้ทีมสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงได้อย่างต่อเนื่อง
.
การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพสูงจึงเป็นภารกิจอันดับต้น ๆ สำหรับหัวหน้างาน และแน่นอนว่าไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย ในโลกการทำงานที่ซับซ้อน หัวหน้าทีมมักพบกับอุปสรรคมากมายในการสร้างทีมประสิทธิภาพสูง เช่น ความหลากหลายในทัศนคติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความกดดันด้านเวลา และเป้าหมายที่ต้องบรรลุภายในระยะเวลาที่จำกัด นอกจากนี้ บ่อยครั้งที่สมาชิกในทีมไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะพูดถึงปัญหาหรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ อันเป็นผลมาจากบรรยากาศที่ไม่เปิดกว้าง ปัญหาเหล่านี้อาจนำไปสู่การสร้างทีมที่ขาดความไว้วางใจ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีมไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมพัง หัวหน้าทีมควรเฝ้าระวัง 5 สัญญาณของทีมที่อาจกำลังพัง ที่พบได้บ่อยตามหลักการของ Patrick Lencioni ในหนังสือ "The Five Dysfunctions of a Team" ซึ่งประกอบไปด้วยปัญหาหลัก 5 ประการ ที่สามารถทำให้ทีมขาดประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว
.
.
1. ขาดความไว้วางใจ (Absence of Trust)
สัญญาณแรกที่ทีมเริ่มพังคือการที่สมาชิกในทีมขาดความไว้วางใจในกันและกัน เมื่อสมาชิกในทีมไม่กล้าที่จะเปิดเผยจุดอ่อนหรือข้อผิดพลาดของตัวเอง หรือไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา สิ่งนี้จะทำให้ทีมทำงานร่วมกันอย่างไม่โปร่งใส ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือและการสื่อสาร


การป้องกันและแก้ไข: หัวหน้าทีมควรสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและปลอดภัย เพื่อให้สมาชิกในทีมกล้าที่จะพูดถึงปัญหาและข้อผิดพลาดของตนเองอย่างตรงไปตรงมา การเสริมสร้างความไว้วางใจผ่านการทำกิจกรรมสร้างทีม การให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และการรับฟังความเห็นของสมาชิกในทีมอย่างจริงจังสามารถช่วยให้ทีมมีความไว้วางใจในกันและกันมากขึ้น
.
.
2. กลัวความขัดแย้ง (Fear of Conflict)
ความกลัวที่จะขัดแย้งกันทำให้สมาชิกในทีมหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือพูดคุยกันในเรื่องที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นถูกปิดบังและสะสมไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในที่สุด ทีมที่ไม่มีการถกเถียงอย่างเปิดเผยจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังได้


การป้องกันและแก้ไข: หัวหน้าทีมควรกระตุ้นให้สมาชิกทีมแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และไม่มองความขัดแย้งเป็นเรื่องส่วนตัว การสร้างกรอบการพูดคุยที่ชัดเจนและปลอดภัยจะช่วยให้สมาชิกทีมสามารถถกเถียงกันในเชิงบวก และช่วยในการตัดสินใจที่ดีกว่า
.
.
3. ขาดความมุ่งมั่น (Lack of Commitment)
หากทีมไม่สามารถตกลงในแผนงานหรือแนวทางปฏิบัติร่วมกันได้ สมาชิกในทีมก็จะไม่สามารถมีความมุ่งมั่นในการทำงานตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง และการตัดสินใจไม่เกิดประสิทธิภาพ


การป้องกันและแก้ไข: หัวหน้าทีมควรเน้นการให้ทุกคนในทีมมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและกำหนดทิศทางของงาน เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจและความรับผิดชอบร่วมกัน การใช้วิธีให้สมาชิกทีมมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและสนับสนุนแนวทางที่เป็นไปได้ จะช่วยเสริมสร้างความมุ่งมั่นของทีม
.
.
4. หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ (Avoidance of Accountability)
หากสมาชิกในทีมไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่หรือไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ผลที่ได้คือความเสี่ยงที่มาตรฐานของทีมจะต่ำลง และทีมจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้


การป้องกันและแก้ไข: หัวหน้าทีมควรเน้นย้ำความสำคัญของความรับผิดชอบในการทำงาน และส่งเสริมให้สมาชิกในทีมต้องรับผิดชอบต่อเป้าหมายและการกระทำของตน การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมีการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ทีมรู้สึกถึงความสำคัญของการรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
.
.
5. ไม่สนใจผลลัพธ์โดยรวม (Inattention to Results)
สมาชิกในทีมที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายส่วนตัวหรือแผนกของตนมากกว่าผลลัพธ์รวมของทีมจะทำให้การทำงานขาดความสามัคคี และเป้าหมายหลักของทีมไม่สามารถบรรลุได้


การป้องกันและแก้ไข: หัวหน้าทีมต้องเน้นให้สมาชิกทุกคนเข้าใจว่าผลลัพธ์รวมของทีมสำคัญกว่าความสำเร็จส่วนตัว การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมุ่งเน้นที่การทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทีม จะช่วยให้สมาชิกมีความมุ่งมั่นในทิศทางเดียวกัน
การสังเกตและแก้ไขปัญหาด้านการทำงานร่วมกันในทีมเป็นสิ่งสำคัญ

หากหัวหน้าทีมสามารถเฝ้าระวังและจัดการกับ 5 ปัญหานี้ได้อย่างทันท่วงที ทีมก็จะสามารถกลับมาทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง


---
 ️Author
ยุ่ง ศริยา ประวงษ์
People & Culture Transformation Consultant
Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator


Artwork
จุฑามาศ ใจสมัคร


#teampsychologicalsafety
#highperformingteam
#theartofchange
#wetreasureSUSTAINABLEGROWTHthroughPEOPLE

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy