Bully ภัยเงียบในสถานที่ทำงาน

กรมสุขภาพจิตเผยข้อมูลสถานการณ์การ Bully ในประเทศไทยว่า ประเทศไทยติดอันดับ 2 ของโลกในการ Bully ผ่านโซเชียลมีเดีย รองจากประเทศญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียวในปี 2563 สถิตินี้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตการณ์ร้ายแรงที่แฝงตัวอยู่ในสังคมออนไลน์ไทย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้คนอย่างกว้างขวาง
.


แม้ข้อมูลจะชี้ชัดถึงสถานการณ์ Bully ในสังคมออนไลน์ หากแต่พบว่าการ Bully ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในพื้นที่ออนไลน์เท่านั้น แต่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตจริงและการทำงานของผู้คนด้วย ในด้านชีวิตประจำวัน ผู้ถูก Bully มักประสบปัญหาสุขภาพจิตอย่างรุนแรง ทั้งภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และความเครียดสูง ส่งผลให้ความมั่นใจในตนเองลดลงอย่างมาก การเข้าสังคมและการใช้ชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องยากลำบาก นอกจากนี้ ยังอาจนำไปสู่ปัญหาการนอนและพฤติกรรมหลีกเลี่ยงสถานที่หรือกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ
.


ในแง่ของการทำงาน พบว่า การ Bully ในสถานที่ทำงานส่งผลกระทบยิ่งชัดเจนและรุนแรง ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากความเครียดและความกังวลที่สั่งสมส่งผลต่อสมาธิและคุณภาพของผลงาน การขาดงานบ่อยขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ Bully กลายเป็นเรื่องปกติ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเสื่อมถอยลง ส่งผลกระทบต่อการทำงานเป็นทีมและบรรยากาศโดยรวมในที่ทำงาน สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การลดลงของโอกาสในการก้าวหน้าทางอาชีพ และในกรณีที่รุนแรง ผู้ถูก Bully อาจตัดสินใจลาออกเพื่อหนีจากสถานการณ์ที่ทนไม่ไหว
.


การ Bully ในที่ทำงานมีหลายรูปแบบและสามารถเกิดขึ้นได้ในหลากหลายสถานการณ์ ซึ่งมักจะซับซ้อนและละเอียดอ่อน บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุหรือพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน รูปแบบที่พบบ่อยได้แก่ การกลั่นแกล้งทางวาจา เช่น การพูดจาดูถูก เหยียดหยาม หรือตำหนิอย่างไม่เป็นธรรมต่อหน้าผู้อื่น การกลั่นแกล้งทางสังคม เช่น การกีดกันออกจากกลุ่ม ไม่ให้ข้อมูลสำคัญในการทำงาน หรือการเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน และการกลั่นแกล้งทางกายภาพ ซึ่งอาจรวมถึงการคุกคามทางร่างกายหรือการทำลายทรัพย์สินส่วนตัว
.


สถานการณ์ที่มักพบการ Bully ได้บ่อยคือในช่วงการประชุมทีม ที่ผู้มีอำนาจมากกว่าอาจใช้โอกาสนี้ในการข่มขู่หรือทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกด้อยค่า การมอบหมายงานก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่อาจเกิดการเลือกปฏิบัติ โดยการให้งานที่ยากเกินไปหรือง่ายเกินไปโดยเจตนา นอกจากนี้ ช่วงเวลาพักหรือกิจกรรมนอกเวลางานก็เป็นโอกาสที่อาจเกิดการกีดกันทางสังคมได้
.


ผลกระทบของการ Bully ในที่ทำงานนั้นรุนแรงและกว้างขวาง ผู้ถูกกระทำอาจเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ขาดงานบ่อย หรือลาออกในที่สุด ในระดับองค์กร การ Bully ส่งผลให้บรรยากาศการทำงานเสื่อมเสีย ทำลายความไว้วางใจและความร่วมมือในทีม นำไปสู่การสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่
.


การแก้ปัญหาการ Bully ในที่ทำงานต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกระดับในองค์กร เริ่มตั้งแต่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ยอมรับพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง การกำหนดนโยบายและขั้นตอนการรายงานที่ชัดเจน การฝึกอบรมพนักงานให้ตระหนักถึงปัญหาและวิธีจัดการ ตลอดจนการสร้างช่องทางให้ผู้ถูกกระทำสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยและเป็นความลับ
.


การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเคารพซึ่งกันและกันไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันการ Bully เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้พนักงานมีความสุข มีแรงจูงใจ และสร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กรอีกด้วย


Author
ออแบท-อธิษฐ์กร นิยมเดชาธีรฉัตร
PositivePsychologist นักจิตวิทยาองค์กร
Professional Action Learning Coach
Team Psychological Safety Facilitator


Artwork
ภัทรมน วงศ์สังข์


#theartofchange
#teampsychologicalsafety
#highperformingteams