เมื่อ Burnout = นับถอยหลัง แต่ผลงานก็ต้องมา นายขาเอาไงดี
ในยุคที่การทำงานในองค์กรเน้นไปที่การสร้างสรรค์และนวัตกรรม การทำงานร่วมกันหรือ Collaboration ของทีมนับเป็นหัวใจสำคัญลำดับต้นๆ ของความสำเร็จ
ซึ่งหากการทำงานขาดบรรยากาศของความร่วมมือกันจากสมาชิกในทีมในขณะที่องค์กรต้องเผชิญกับการแข่งขันและสภาพแวดล้อมที่ผันผวนและคาดเดาไม่ได้ เมื่อความกดดันถูกส่งไปยังทีม อาจนำไปสู่ภาวะ Burnout ของพนักงาน ซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของทีมอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันขององค์กรอย่างไม่ต้องสงสัย และหากไม่ได้รับการแก้ไข อาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการถอยหลังขององค์กร
Burnout คือภาวะที่พนักงานรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีพลังงาน และหมดไฟในการทำงาน เกิดจากการทำงานภายใต้ความกดดันที่มากเกินไปและขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน การขาด Collaboration ในที่ทำงานเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งเมื่อพนักงานรู้สึกว่าตนเองต้องทำงานคนเดียว ไม่มีการสนับสนุนหรือไม่สามารถพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมได้ จะทำให้ความเครียดสะสมและนำไปสู่ภาวะ Burnout ได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากพนักงานต้องใช้เวลาและพลังงานในการทำงานที่ควรจะสามารถแบ่งปันกับคนอื่นได้
นอกจากนี้ การไม่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้กันได้อย่างเต็มที่ ยังทำให้การรับมือกับปัญหาช้าลงและเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น การขาดการสื่อสารและขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานยังทำให้พนักงานรู้สึกโดดเดี่ยว และขาดความมั่นใจในการทำงาน ส่งผลให้ผลงานที่ออกมาขาดคุณภาพ
Team Psychological Safety หรือความปลอดภัยทางจิตวิทยาของทีม อาจอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าเป็นสภาพแวดล้อมที่คนในทีมรู้สึกปลอดภัยที่จะเสนอความคิดเห็น แบ่งปันไอเดีย หรือแสดงความไม่เห็นด้วยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตำหนิหรือดูถูก หรือได้รับผลกระทบด้านลบที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคนในทีม
การมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทางจิตใจช่วยสร้างบรรยากาศของความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเกิดความผิดพลาด ทีมก็สามารถถอดบทเรียนจากความผิดพลาดและเปลี่ยนการดำเนินการที่ดีขึ้นในครั้งต่อๆ ไป
ความปลอดภัยทางจิตใจทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของทีม และมีคุณค่าในการทำงาน เมื่อพนักงานรู้สึกว่าเสียงของตนเองมีค่าและได้รับการยอมรับ จะทำให้มีความกระตือรือร้นในการทำงานและการร่วมมือกันมากขึ้น การมี Team Psychological Safety ยังช่วยลดความเครียดและความกังวล ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้นำทีมสามารถสร้างหรือส่งเสริมให้เกิด Team Psychological Safety ในทีมได้หลายวิธี เช่น:
1. ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา: ผู้นำทีมควรสนับสนุนให้สมาชิกในทีมสามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตำหนิ
2. ให้ความสำคัญกับความไว้วางใจและความเคารพ: ผู้นำทีมควรแสดงความไว้วางใจในความสามารถของสมาชิกทีม และสร้างบรรยากาศที่เคารพความคิดเห็นของทุกคน
3. สนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนา: ผู้นำทีมควรส่งเสริมให้สมาชิกทีมมีการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ และให้การสนับสนุนในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด
4. เน้นการทำงานเป็นทีม: การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือกิจกรรมสันทนาการ สามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีม
5. สร้างวัฒนธรรมของการรับฟังและให้ข้อเสนอแนะ: ผู้นำทีมควรแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรับฟังความคิดเห็นและการให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์
การสร้าง Team Psychological Safety จะทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยลดภาวะ Burnout ของพนักงานและส่งผลให้ผลงานของทีมมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Author
โค้ชติ๊ก นิธิพร ไตรทิพเทวินทร์
Certified Master Facilitator Team Psychological Safety
Professional Action Learning Coach
#teampsychologicalsafety
#highperformingteam
#theartofchange
#wetreasureSUSTAINABLEGROWTHthroughPEOPLE